พระสูตรบทนี้นับเป็นพระสูตรฝ่ายมหายานที่สั้นที่สุด
และเป็นที่นิยมมากที่สุด
นิกายฝ่ายเหนือแพร่หลายในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ภูฏาน
เวียดนาม เป็นต้น แม้ชนชาติเหล่านี้อพยพไปอยู่ที่ใดในโลก
ก็ย่อมนำเอาศรัทธาในพระสูตรนี้ติดตัวตามไปด้วย
ที่เรียกว่า "หฤทัย" ก็คือกลั่นสะกัดเอาแต่ "แก่นธรรม" ของพระสูตรใหญ่
คือ "มหาปรัชญาปารมิตาสูตร"
ที่ว่าสั้นมากคือประกอบด้วยอักษรจีนเพียง 260 ตัว
ถ้าแปลตามศัพท์จะได้
ปรัชญา คือ ปัญญา ความรู้ที่ทำให้เกิดปัญญา
ปารมิตา คือ บารมี สิ่งที่ได้รักษาและทำให้เต็มแล้ว
สูตร คือ พระสูตรที่เป็นธรรมะสดับจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า
ซึ่งพระสูตรนี้ผู้แต่งแสดงถึงวาระที่ทรงแสดงธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตร
ผู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา
มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้แต่งคัมภีร์พระสูตรนี้ว่าน่าจะเป็นพระนาคารชุน
ซึ่งเป็นผู้นำทางแนวคิด "สูญญตา" อันเป็นแก่นหลักของพุทธศาสนา
โดยนำแนวหลักปฏิจจสมุปปาทมาพัฒนาสู่หลักสูญญตา จากการสร้าง
ทฤษฎีแล้วท่านยังมุ่งปฏิบัติตามโพธิสัตวธรรมคือช่วยเหลือสรรพสัตว์
ให้หลุดพ้นด้วย
รวมความว่าเป็น พระสูตรแห่งความเต็มบริบูรณ์แห่งปัญญา
ผู้แปลคัมภีร์จากภาษาสันสกฤตเป็นพากษ์จีนได้แก่พระตรีปิฏกธรรมาจารย์
หรือพระถังซำจั๋งแห่งสมัยราชวงศ์ถัง(唐·三藏法師玄奘)
เนื้อความหลักกล่าวถึง "ความว่าง" ที่กินความถึงอนัตตาและสูญญตา
กล่าวคือสรรพสิ่งแม้แต่ธรรมะล้วนไม่พึงยึดมั่นถือมั่น
หากบรรลุเข้าใจในที่สุดแล้วล้วน "ไม่มีอะไร"
หากใครที่ยังยึดติดกับธรรมะที่เคยเข้าใจและสั่งสอนกันมาในฝ่ายเถรวาท
อาจคิดแย้ง หรือแม้แต่คิดต้านเป็นปฏิปักษ์เสียด้วยซ้ำ เพราะพระสูตรนี้
กล่าวถึงตั้งแต่ขันธ์ อริยสัจ 4 ไปจนกระทั่งนิพพานว่า "ไม่มี"
ดังนั้นการเข้าใจหรือตีความในพระธรรมหมวดต่างๆจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
หากแม้นำมาเทียบกับทางโลกียะก็คงคล้ายกับการตีความกฎหมาย หรือ
การนิยามศัพท์แสงต่างๆนั่นเอง
コメント